แอดมินเพจ Udonthani Update ชี้แจงกรณี เงินบริจาคน้องบาส ยืนยันว่าโอนครบแล้ว ที่ในซองหายไปเพราะควักจ่าย แต่โอนคืนแล้ว จากกรณีที่ น้องบาส ฮีโร่ช่วยเด็กถูกไฟดูดได้เดินทางเข้าแจ้งความเพจ Udonthani Update โดยระบุว่าทางเพจจ่ายเงินบริจาคให้น้องบาสไม่ครบ โดยปฏิเสธว่าอมเงินบริจาคน้องบาส ชี้สาเหตุที่เงินในซองไม่ครบ เพราะควักจ่ายค่าน้ำมัน และยืนยันว่าโอนเงินให้ครบแล้ว
แอดองุ่น หรือ .ส.สุภาวดี ลาเสือ อายุ 38 ปี แอดมินเพจ Udonthani Update
เผยว่า ตนขอชี้แจงถึงเรื่องน้องบาสก่อน วันนั้นตนโทรหาน้องบาสบอกว่าจะเอาเงินไปให้ที่บ้านตอนเช้าแต่น้องบอกว่าขอเป็นช่วงเย็น ตนก็บอกว่ารอได้ ตอนขับรถกลับบ้านรถน้ำมันจะหมด เลยดึงเอาเงินในซองไปเติมน้ำมัน 1,000 บาท เพราะน้ำมันสแกนจ่ายไม่ได้ พอเติมน้ำมันเสร็จก็เก็บเงินทอนไว้ ต่อมาน้องบาสโทรมาบอกว่าถึงบ้านแล้ว ตนก็ถือซองแล้วบอกให้น้องมาถ่ายรูปกัน พอถ่ายรูปเสร็จน้องบาสก็ถือซองไปนั่งคุยกัน ตนเป็นคนชอบคุย น้องบาสก็คุยสนุกเลยคุยกันนานมาก
ต่อมาแฟนโทรมา จึงรีบกลับบ้าน พอกลับถึงบ้านก็โพสต์บอกว่ามีคนบริจาคเงินให้น้องบาส 5,000 บาท พอโพสต์เสร็จ ป้าน้องบาสก็โทรมาถามว่า “คุณองุ่นคะ ไหนโพสต์ว่ามอบเงิน 5,000 บาท แต่ทำไมน้องบาสได้ 1,000 บาท” เธอจึงอธิบายว่า ในซองมี 4,000 บาท ให้ลองซองหาดูก่อน น้องบาส ก็บอกว่าหาไม่เจอ ตนจึงมาหาในกระเป๋าจึงเจอซอง เลยถ่ายรูปส่งให้น้องบาสดู และบอกว่าน้องบาส มาเอาได้ไหม น้องบาสบอกว่าไม่สะดวก ตนจึงโอนให้ 4,000 บาท
แอดองุ่น เล่าต่อว่า วันนั้นที่ไปโรงพยาบาล น้องเรดิโอ ไม่มีผู้ใจบุญมอบเงินให้ จึงเอาเงินส่วนตัวมอบให้ 1,000 บาท และถ่ายรูปกับคุณยายของน้อง มีถ่ายภาพซองชัดเจน แล้วก็มีผู้ใจบุญมามอบเอง ถ่ายรูปไว้แต่ไม่ได้ออกข่าว บอกจะเอามาลงเพจให้ ที่ผ่านมาตนดูแลเพจนี้และช่วยเหลือคนมาพอสมควร กฎเหล็กของตนคือจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับกับเงิน เพราะมันไม่คุ้ม
ในประเด็นเงิน 15,000 บาท เป็นเงินที่ผู้ใจบุญมอบให้ฮีโร่ทั้งสามคนที่ช่วยเด็กถูกไฟดูด น้องบาส 5,000 บาท น้องบอส 5,000 บาท ยืนยันมีหลักการโอน เพราะน้องไม่ได้รับด้วยตัวเอง ส่วนอีกคนคือน้องเอ๋อีก 5,000 บาท แต่น้องเอ๋ ขอมอบเงินให้อีกสองคน ขอรับแค่ 2,000 บาท ส่วน 3,000 บาทก็มอบให้น้องๆ
ยืนยันว่าทางเพจไม่ได้เปิดรับบริจาค แค่มีคน ทักมาจะบริจาค ตนก็บอกว่ามีเบอร์โทรน้องให้เอาไปคุยกันเอง แต่เขาประสงค์ให้ตนไปมอบให้ตนก็ทำ ส่วนกรณียายน้องเรนั้น เงินบริจาคผู้ใจบุญไม่ได้มอบให้น้อง แต่ตนเห็นแล้วสงสารตนจึงควักเงินส่วนตัวให้ 1,000 บาท
อยากฝากถึงน้องบาสฮีโร่ช่วยเด็กถูกไฟดูดว่า ถ้าคิดว่าได้เงินไม่ครบ ทำไมไม่คุยกันก่อน แล้วที่ตนโอนเงินให้น้องบาส 5,000 บาท คืออะไร ถ้าคิดว่าผิดก็แจ้งความ พร้อมสู้คดีและพร้อมดำเนินตามหลักฐานต่างๆ ตนเป็นแค่สะพานบุญ แต่ความจริงคือความจริง ความดีอยู่กับตัวเรา คนอื่นจะว่าเราไม่ดีก็ช่าง แต่เรารู้อยู่แก่ใจ ขอฝากแค่นี้
แม่ลูกปั่นจักรยานกลับสุพรรณ หลังน้อยใจถูกน้องสาวไล่ออกจากบ้าน
สะเทือนใจ แม่ลูกปั่นจักรยานกลับสุพรรณ หลังน้อยใจถูกน้องสาวไล่ออกจากบ้าน สุดท้ายกู้ภัยนำขึ้นรถตู้ถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย ผู้สื่อข่าวได้รับประสานจาก นายจิรวัฒน์ ปานอุไร คนขับรถแท็กซี่ วัย 36 ปี ที่แจ้งว่า แม่ลูกปั่นจักรยานกลับสุพรรณบุรี แต่แต่นายจิรวัฒน์โชเฟอร์แท็กซี่ไม่สามารถช่วยเหลือพาทั้งสองคนไปส่งได้ จึงได้ติดต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความช่วยเหลือและตรวจสอบข้อเท็จจริง
เมื่อถึงบริเวณป้ายรอรถประจำทางก็พบ นายระพีพงษ์ อายุ 61 ปี ผู้เป็นลูกและนางมาลัย อายุ 85 ปี ผู้เป็นแม่พร้อมรถจักรยาน 1 คันจอดอยู่ที่ป้ายรอรถโดยสาร ผู้สื่อข่าวจึงถามหาสาเหตุว่าเพราะเหตุใดทั้งสองต้องมาขับจักรยานยนต์ในช่วงดึกขนาดนี้แล้ว
นายพีระพงษ์เล่าว่า ตนและแม่ได้ปั่นจักรยานออกมาจากบ้านของน้องสาวที่ อ.ดอนตูม จ.นครปฐม หลังจากที่มีความขัดแย้ง โดยปกติตนเองกับแม่ได้อาศัยอยู่กับน้องสาวมาหลายปีแล้ว แต่ก็มักจะมีปัญหาทะเลาะกัน มีปากเสียงกันบ่อยๆ ที่ผ่านมาน้องสาวก็ชอบไล่ตนกับแม่ออกจากบ้านบ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้ออกจากบ้านจริงๆ
จนกระทั้งวันเกิดเหตุน้องสาวก็ไล่ตนออกจากบ้านอีก คราวนี้รับไม่ได้น้อยใจ จึงตัดสินใจพาแม่ซ้อนท้ายรถจักรยานแล้วขี่ออกจากบ้านน้องสาวมา โดยตั้งใจว่าจะขี่รถจักยานพาแม่ซ้อนท้ายกลับบ้านเกิดที่ อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร
ขับไปได้ 10 กิโลเมตร เริ่มรู้สึกว่าจักรยานมีอาการไม่ดี กลัวจะเกิดอันตราย จึงตัดสินใจโบกรถที่ผ่านไปมาเพื่อขอความช่วยเหลือ จนกระทั่งมีพลเมืองดีให้อาศัยติดรถมาลงที่ปากทางซอยวัดลาดปลาดุก อ.บางบัวทอง หลังจากนั้นจึงปั่นจักรยานต่อเพื่อไปยังปลายทาง จ.สุพรรณบุรี แต่ด้วยความมืดจึงจอดพักที่ป้ายรถประจำทาง และขอความช่วยเหลือจากแท็กซี่ แต่แท็กซี่ไปไม่ได้ จึงประสานไปยังสื่ในที่สุด
ทั้งนี้กู้ภัยบัวเพชรนนทบุรีได้นำตัวสองแม่ลูกปั่นจักรยานกลับสุพรรณ ขึ้นรถไปส่งยังปลายทางที่บ้านเกิดตั้งอยู่ หลังวัดรอเจริญ ต.บางปลาม้า อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ซึ่งทันทีที่ทั้งสองแม่ลูกถึงบ้านเกิด ก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจที่ได้เดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดอย่างปลอดภัยพร้อมกับขอบคุณที่เจ้าหน้าที่มูลนิธิบัวเพชรได้ยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือจนถึงบ้านอย่างปลอดภัยตามที่ตั้งใจเอาไว้
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป